- Cute boys 2017 ประจำเดือน เมษายน น้องณัฐธีร์ @ศิลปากร -

“คุณต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแตกต่าง

และเป็นที่ต้องการของทุกองค์กรได้”

ณัฐธีร์ อัครพลธนรักษ์ (ตูน)
ชั้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สาขานิเทศศาสตร์ เอกการโฆษณา มหาวิทยาลัยศิลปากร 

ทำไมถึงเลือกเรียนสาขาวิชาการโฆษณานี้

: ตอนแรกเคยคิดอยากจะไปสายดนตรี เพราะเราชอบดนตรี แต่คิดว่าถึงจุดหนึ่ง เราต้องจริงจังกับมัน เราอาจจะไม่มีความสุขกับดนตรีแล้วก็ได้ ก็มีลังเลว่าจะเรียนฟิล์ม หรือเรียนโฆษณาดี แต่ก็คิดว่า ถ้าเรารู้เยอะก็เริ่มจะไม่สนุกกับสิ่งนั้นๆ แล้ว ผมอยากจะดูหนังอย่างมีความสุขและสนุกด้วยน่ะครับ อีกอย่างผมเป็นคนชอบคิดด้วย ก็เลยเลือกเรียนโฆษณา

ความน่าสนใจ หรือจุดเด่นของการเรียนโฆษณา คือ ?

: หัวใจของงานโฆษณาคือ ความครีเอทีฟ ผมชอบเพราะว่าทุกงานเริ่มต้นจากความครีเอทีฟ หรือว่ามันมีความครีเอทีฟเข้าไปเป็นส่วนประกอบ การทำเพลง หรือว่ารายการวิทยุ มันมีสิ่งนี้เป็นส่วนประกอบอยู่ การเรียนโฆษณาทำให้เราสามารถเอาความรู้ตรงนี้ไปต่อยอดได้

มหาวิทยาลัยมีการสอน หรือถ่ายทอดวิธีการทำงานยังไงบ้าง

: จุดเด่นคณะผมคือ เอาคนที่ทำงานจริงๆ มาเป็นอาจารย์พิเศษ ทำให้เราได้เคล็ดลับของคนที่ทำงานในแวดวงจริงๆ อย่างวิชา copy อาจารย์สอนถึงวิธีการแถยังไงให้ไม่น่าเกลียด ถ้าเราคิดไม่ออก ผมว่ามันดูจริง ซึ่งเราสามารถคิดงานแบบนี้ได้จริงโดยไม่ต้องพึ่งทฤษฎีมาก แต่มีทฤษฎีปูมาเป็นกรอบไว้ เขาจะสอนให้เราออกจากกรอบ แต่ในกรอบนั้นต้องเต็มก่อนนะ ไม่อย่างนั้นจะกลวง เอาไปใช้อะไรไม่ได้เลย แล้วเรามองว่า การทำงานในมหาวิทยาลัยคือ การทดลอง ลองผิดลองถูก ถ้ามันดีก็ทำต่อ ถ้าไม่ดีก็เริ่มทำใหม่

“การทำงานในมหาวิทยาลัยคือ การทดลอง

ลองผิดลองถูก ถ้ามันดีก็ทำต่อ ถ้าไม่ดีก็เริ่มทำใหม่”

ทำไมถึงเลือกแรป ใน vdo resume

: เริ่มจากโจทย์ที่อาจารย์ให้คือ ทำคลิปสมัครงานที่ตัวเองอยากสมัคร ซึ่งใครๆ ก็อยากทำ copy writer และทุกคนคิดหมือนกันหมด อย่างเอากล้องมาตั้ง สัมภาษณ์ หรือพูดจาให้คมคาย อันนี้เป็นความคิดแรก ที่เราและเพื่อนก็คิดเหมือนกัน เราจึงต้องคิดไปอีกสเต็ป เอาความสามารถของตัวเองมาใส่ในงาน ที่คิดว่าคนอื่นทำไม่ได้ ก็ใช้แรปนี่แหละมาช่วย เราพอมีความรู้เรื่องซาวน์ บีทส์อยู่บ้าง ก็เอามาใช้ในงาน ผมคิดว่า งานของเรามันต้องโดดเด่นออกมา อย่างน้อยอาจารย์ที่เห็นผลงานเราคนแรกต้องจำได้

ณัฐธีร์  เป็นคนแบบไหนกันนะ

: เพื่อนๆ ชอบบอกว่า ผมค่อนข้างกวนตีน ปากเสียนิดหน่อย ขวางโลกด้วย แต่ผมคิดว่าการขวางโลกของเรามันเป็นผลดีบางอย่างในการทำงาน พอเราไม่เห็นด้วย ก็ทำให้เราเกิดการตั้งคำถาม นำไปสู่คำตอบที่ไม่เหมือนเดิมได้

ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันเป็นยังไงบ้าง

: ส่วนมากจะอยู่กับการเสพสื่อครับ ชอบเกือบทุกสื่อเลย อย่างฟังเพลง ผมนั่งฟังเพลงอย่างเดียวได้เป็นครึ่งวันเลย มีเพลงออกใหม่ก็ฟังหมดเลย คอนเสิร์ตก็ไป และผมชอบดูหนังมาก เรื่องอะไรเข้าโรงก็ไปดูเกือบหมด มันทำให้เราได้รับแนวคิดดีๆ เพื่อเอาไปต่อยอดงานเราได้

แบบนี้ ต้องมีหนังที่ชอบที่สุด

: ที่สุดของหนัง มีเรื่องเดียวในใจเลยก็คือ “Forrest Gump” หนังเรื่องนี้ ไกด์แนวทางการใช้ชีวิตให้เรา ประเด็นคือ ‘เราจะเป็นนก หรือจะเป็นขนนก หมายความว่า ถ้าเป็นนกเราจะบินไปไหนก็ได้ตามใจที่ต้องการ แต่ถ้าเป็นขนนก จะลอยไปตามทิศทางลม เพื่อจะไปในแต่ละที่’

ดูแล้วก็เกิดคำถามกับตัวเองว่า จำเป็นมั้ยที่เราจะต้องมีจุดหมายในการไปที่ใดที่หนึ่ง หรือเราจะลอยไปตามทิศทางลมเพื่อรับโอกาสที่เข้ามา และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับที่ผมอยากเป็นนักโฆษณามาก แต่ถ้าผมไม่รับโอกาสจากที่อื่น เราก็จะไม่มีทางรู้ว่าโอกาสตรงนั้นจะพาเราไปที่ไหนได้บ้าง

เสพสื่อเยอะ แล้วมีวิธีการแสดงออก หรือนำเสนอความคิด ผลงานของตัวเองยังไง

: ส่วนใหญ่ผมจะไปลงกับการถ่ายภาพครับ มีอินสตราแกรม ที่มีภาพถ่ายเพื่อแสดงความรู้สึกของผมในแต่ละวันครับ มีทำคลิปวีดิโอกับเพื่อนบ้าง มีทำผลงานเพื่อส่งประกวด ก็เพราะเป็นการวัดฝีมือเราด้วยว่าตอนนี้ความคิดของเราไปถึงระดับไหนแล้ว สามารถชนะคนรุ่นเดียวกัน สายงานรุ่นเดียวกันได้หรือยัง และส่วนมากจะชอบทำอะไรที่มันได้เงินครับ (ฮ่าๆ) … เพราะผมรู้สึกว่าชีวิตมันอยู่ได้ด้วยเงินครับ

ความสามารถของ ณัฐธีร์

: ผมชอบเล่นดนตรี เขียนเพลง อย่างคลิปแรปสมัครงานก็เอาเรื่องการเขียนเพลง การจับสัมผัสคำมาใช้ ถ้าเป็นเรื่องดนตรีเคยได้รับรางวัลชนะเลิศ  SMA อวอร์ด เป็นโครงการประกวดดนตรีของมหาวิทยาลัยศิลปากร และอันล่าสุดที่เพิ่งได้รับรางวัลคือ ชนะเลิศประกวดสปอร์ตวิทยุช่วยเด็กจมน้ำของกระทรวงสาธารณสุข และก็มีส่งประกาวดหลายๆ โครงการครับได้ที่ 2 บ้าง ที่ 3 บ้าง

“เขาจะสอนให้เราออกจากกรอบ แต่ในกรอบนั้นต้องเต็มก่อนนะ

ไม่อย่างนั้นจะกลวง เอาไปใช้อะไรไม่ได้เลย”

เคล็ดลับการพัฒนางานตัวเองคืออะไร

: ต้องดูงานให้เยอะครับ ดูเพื่อให้รู้ว่า สิ่งที่เราคิดมันซ้ำมั้ย มันยังใหม่อยู่มั้ย แล้วศึกษาว่า งานนี้ทำไมถึงดัง จุดไหนที่เอามาทำเป็นไวรัลได้ อย่างที่บอกว่า หัวใจของมันคือ ความแตกต่าง ถ้าไม่แตกต่างก็จะทั่วไป ถูกกลืนหายไป อย่างที่เราเห็นว่าทุกแบรนด์ในโซเชียลทำคลิปอะไรอย่างเนี้ยเยอะมาก แต่มีไม่กี่ตัวที่เป็นที่พูดถึง และโดดเด่นออกมา

คติ และแนวคิดในการใช้ชีวิตยังไงบ้าง

: ผมไม่ค่อยยึดอะไรมาเป็นคตินะครับ ผมแค่คิดว่า สุดท้ายที่เราต้องการก็คือความสุข ผมก็มาคิดดูว่า ความสุขของผมคืออะไร และก็รู้ว่าทุกวันนี้มีความสุขกับการใช้เงิน เพราะผมชอบดูหนัง ไปดูคอนเสิร์ตอ่ะครับ อย่างน้อยความสุขที่เกิดขึ้นตัวเรา ถ้าเป็นเงินตัวเอง ก็คือความสุขของตัวเอง ตอนนี้เราเป็นวัยรุ่น ต้องการแค่มีเงินใช้ให้เรามีความสุข พอเราอายุมากขึ้น เราอาจะมีความสุขกับการแบ่งเงินเพื่อช่วยเหลือคนอื่นมากกว่า มันขึ้นอยู่กับช่วงเวลามากกว่า

นิยามของคำว่า intern cute boys and girl ในแบบฉบับของ ณัฐธีร์

: cute คือน่ารัก intern คือการฝึกฝน ใช่มั้ยครับ แต่ intern cute boys and girl ไม่ใช่แค่ความน่ารักเท่านั้นครับ แต่ต้องเป็นคนที่ทำให้ผู้ใหญ่เอ็นดูได้ คุณต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแตกต่าง และเป็นที่ต้องการของทุกองค์กรได้

Facebook : Nattee Akaraponthanaruk

IG : t – oon