GLOBAL PROJECT SALES EXECUTIVE

ขอบคุณข้อมูลจาก

คุณสมาภรณ์ ทองอินทร์

อาชีพ

Global Project Sales Executive

รายได้

12,000 - 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับคอมมิชชั่น)

ภาพรวมอาชีพ

งาน เซลส์ ดูแลเรื่องวัสดุก่อสร้าง งานตกแต่งภายใน หลักๆ ก็จะทำงานกับ ดีไซเนอร์ และ Owner อาทิ บริษัทออกแบบทั่วไป อย่าง A49 และ A103

หลายคนสงสัยว่า Sales กับ AE (Account Executive) แตกต่างกันอย่างไร ถ้ามองจากลักษณะงานแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่ AE จะใช้เรียกเซลล์ที่ขายสื่อเป็นมีเดีย แต่ถ้าเป็นสายโปรดักส์ก็จะเรียกกันว่า เซลส์ มากกว่า  

ประวัติการทำงาน

ทำงานเป็น เซลส์ มาตลอดเกือบ 9 ปี ก่อนหน้านั้นขายของตกแต่งบ้าน(โคมไฟ) แถวเอกมัยอยู่ 2 ปี ปัจจุบันอยู่ที่ SCG มาราวๆ 7 ปีแล้ว

การเติบโตในสายงาน

ลำดับการเติบโตจะแบ่งเป้็น Junior - Senior - Manager สายงานนี้ส่วนใหญ่เริ่มต้น ด้วยการเข้ามาเป็น จูเนียร์ เรียนรู้ทักษะ วิธีการต่อรองกับลูกค้า ถือพอร์ตลูกค้ารายใหญ่ รายย่อยสลับกันไป เพื่อดูศักยภาพว่าเราสามารถดูแลลูกค้าได้ดีแค่ไหน โดยวัดผลจากรีพอร์ต ยอดการเติบโต รวมถึงฟีดแบ็กที่ได้รับมาจากลูกค้าที่เซลส์ดูแลอยู่

เมื่อเริ่มมีความเชี่ยวชาญ บวกกับประสบการณ์ด้านงานขาย ก็จะเติบโตและถูกโปรโมตขึ้นเป็น ซีเนียร์ จนเมื่อพัฒนาทักษะตรงนี้ ให้สามารถดูแลภาพรวมใหญ่ต่างๆ ได้แล้ว ก็จะขึ้นสู่ระดับ Manager

Hard Skill

• Report Tools - สิ่งที่ต้องทำควบคู่กับการทำงานขาย คือ การทำรีพอร์ต การสรุปและนำเสนอข้อมูลแก่หัวหน้า จึงเป็นอีกหน้าที่ๆ เซลส์ต้องทำ ทักษะการใช้งานโปรแกรมอย่าง Microsoft Excel และ PowerPoint จึงเป็นเรื่องสำคัญ
• ทักษะภาษา - เพื่อความก้าวหน้าและทันสมัยในวิชาชีพ
• การสรุปความได้ (Summary Skills) - เพราะเซลส์เป็นตัวกลางระหว่างบริษัท จึงต้องทำการสรุปข้อมูลของลูกค้าให้ถูกต้องและเข้าใจได้ง่าย

Soft Skill 

• บริการด้วยใจ - สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า (Service Mind)
• มารยาทในการเข้าสังคม - เพราะ อาชีพ Sales ต้องมีการพบปะและเข้าหาลูกค้ารายใหญ่
• บุคลิกภาพ - การเข้าพบลูกค้า First Impression สำคัญเสมอ เรื่องการแต่งกายต้องสุภาพ ถูกกาลเทศะ 
• รู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และควบคุมอารมณ์

คุณสมบัติและลักษณะนิสัย

สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องมี หากจะมาประกอบอาชีพ เซลส์ หลักๆ เลย คือ การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี(มาก) เพราะงานสายนี้ เป็นอาชีพที่ต้องพบปะลูกค้าหน้าใหม่อยู่เสมอ ซึ่งต้องรู้จักการพูดคุย ทักทาย เข้าหาคนอื่น ยิ่งมีวาทะศิลป์มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีลูกค้ามาตามจีบ ซื้อโปรดักส์เรามากขึ้นเท่านั้น

ปัจจัยสำคัญรองจาก วาทะศิลป์ คือ การสร้างและบริหาร คอนเน็กชั่น (Connection) ระหว่างเรากับลูกค้า คอนเน็กชั่นที่ดีเกิดจากอะไร? ย้อนกลับไปที่ วาทะศิลป์ หากคุยกันถูกคอ หรือ ทำให้ลูกค้าชอบพอโปรดักส์ของเรา ตลอดจนมีการติดตามงาน หลังการขายเป็นระยะๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้เราสามารถขับเคลื่อนในงานสายนี้ ได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น

ยิ่งมีคอนเน็กชั่นที่ดี ก็จะยิ่งมี Value หรือมูลค่าในการทำสิ่งต่างๆ สูง ในแวดวงของการเป็น พนักงานขาย อาจจะเรียกค่าคอมมิชั่นได้เพิ่มมากขึ้น แต่ผลประโยชน์อื่นๆ อย่างการนำไปสู่ ลูกค้ารายใหญ่มากขึ้น โปรเจ็กต์ใหญ่มากขึ้น หรือดีไม่ดีอาจจะมีงานตำแหน่งใหญ่ ให้เงินเดือนสูงมากขึ้น ติดต่อมาหาเรา

สิ่งที่ต้องเพิ่มเติม

ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะ เซลส์ กับ AE แต่ละที่ ก็จะพบเจอกับ โปรดักส์ และ มีเดีย ที่แตกต่างกันไป สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ คือ รายละเอียดและความพิเศษของสินค้านั้นๆ ที่จะสามารถดึงมาเป็น Selling Points ให้กับสินค้าได้

อีกเรื่องอาจจะเป็น ความเคลื่อนไหวด้านการตลาด กระแสสังคม ความนิยม (Trends) ในยุคปัจจุบัน ถามว่าสำคัญไหม ก็เป็นส่วนประกอบที่นำมาใช้กับสายงานนี้ได้ดี แต่อาจจะต้องหาจุดเชื่อมโยงที่นำไปสู่การขาย ผู้ซื้อหลายคนชอบอะไรที่ค่อนข้างทันสมัย และมองถึงอนาคต มากกว่าอะไรแบบ เพลนๆ