เด็กฝึกงาน.com

Intern Cute Boys & Girls | No.02 | น้องเบอร์ดี้

  • Intern Cute Boys & Girls
  • 2/7/17
  • 2,370
Intern Cute Boys & Girls | No.02 | น้องเบอร์ดี้
- Cute girls 2017 ประจำเดือน มีนาคม : น้องเบอร์ดี้ @จุฬาฯ -

“Be Who You Want To Be Not Others Want To See”
– เป็นในสิ่งที่คุณอยากเป็น ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นอยากให้เป็น –

กนกรัตน์ ธรรมพนิชวัฒน์ (Birdie) ชั้นปีที่ 3
คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

ทำไมเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

         : ที่บ้านเป็นผู้พิพากษากันหมด คุณพ่อคุณแม่จึงอยากให้เรียนคณะนี้ และหนูเองก็คิดว่า การมีความรู้เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องดี อนาคตหากเล่นการเมืองก็สามารถนำความรู้ไปใช้เล่นการเมืองได้ค่ะ

ขึ้นชื่อว่า นิติศาสตร์ จุฬาฯ ต้องเรียนยากใช่ไหม

         : มันคืออยู่กับความชอบค่ะ ถ้าคนที่ชอบจะเรียนได้แน่นอน คนที่ไม่ชอบจะ ‘suffer’ มากๆ ส่วนหนูก็ไม่ได้ชอบตั้งแต่แรกนะคะ จำได้ว่าตอนเรียนใหม่ๆ อ่านหนังสือแล้วร้องไห้เลย เพราะต้องอ่านเยอะมาก วิชานึงหนังสือจะหนามาก แล้วเราเรียน 6-7 วิชา บางวิชามี 3 เล่ม ต้องเป็นคนที่ใจรักจริงๆ ถึงจะอยู่กับตรงนี้ได้ตลอดเวลาอะ แต่พอสุดท้าย หนูพยายามเรียน และสู้ก็สอบผ่านไปได้ หากทุกคนผ่านจุดนี้ อดทนผ่านไปได้ ก็จะภูมิใจในตัวเองค่ะ

ถ้าไม่ได้เรียนคณะนิติศาสตร์ เบอร์ดี้อยากเรียนคณะอะไร

         : เคยอยากไปเรียน broadway ที่อเมริกาค่ะ คือสร้างละครเวที เพราะมีความฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นนักร้อง และชอบการแสดงด้วย หนูเคยทำงานเกี่ยวกับการเขียนบท เวลามีงานแสดงในโรงเรียน และมหาวิทยาลัยด้วย ก็ชอบ เพราะอยู่กับงานพวกนี้แล้วมันสนุก มีความสุข แต่จะไปเรียนถึงอเมริกาก็ไกลเกินไป ก็คิดว่าทำตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อนแล้วกัน

เรียนกฏหมาย ทำไมถึงได้ทำงานด้านบันเทิง

         : มีพี่โมเดลลิ่งติดต่อมาค่ะ ให้ลองไปแคสงานนี้ให้หน่อย บางงานก็ได้ บางงานก็ไม่ได้ค่ะ อย่างงานพิธีกรก็ได้ไปทำเพราะได้ไปแคสงานกับทางโมเดลลิ่ง อย่างการพิธีกรรายการ ก็เกิดจากการแคสติ้งงานแล้วผู้จัดรายการสนใจ จึงให้เราลองทำดูค่ะ แล้วหนูยังชอบกีฬายิงปืนด้วยนะคะ อาจเป็นเพราะตอนเด็กๆ ได้ไปสนามกีฬายิงปืน ได้เรียนกับคุณพ่อด้วย เราก็ซึมซับมาเรื่อย กลายเป็นชอบในที่สุด พอเรียนมหาวิทยาลัย ก็เข้าชมรมยิงปืน คัดตัวจนได้เป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัยค่ะ

“ถ้าเราหลุดออกมาจากขีดจำกัดตรงนั้นได้
เราก็จะไม่รู้สึกกดดัน ศักยภาพของเราจะพัฒนาไปได้อีก”

 

         นอกจากนี้ เบอร์ดี้ยังเป็นติวเตอร์ด้วย ?
         : ใช่ค่ะ ตั้งแต่มัธยมปลายแล้ว รุ่นน้องมาให้สอนการบ้านเพราะไม่เข้าใจ ตอนแรกๆ ก็สอนปกติ ติวหนังสือธรรมดา ไม่ได้รับติว จนเข้ามหาวิทยาลัย มีรุ่นน้องมาขอให้ติวหนังสือเพื่อสอบใหม่ให้หน่อย เราก็ช่วยติวเพราะอยากให้เขาสอบได้จริงๆ ปรากฎว่า ผลสอบออกมาเขาได้คะแนนดีมาก สอบได้จริงๆ ก็ภูมิใจที่เราทำได้ ช่วยเขาได้ ที่มหาวิทยาลัยมีรับติวกันอยู่แล้ว เราก็เริ่มสนใจจึงรับติวหนังสือสอบให้กับน้องๆ ค่ะ การติวหนังสือช่วยให้น้องๆ ได้ความรู้ และสอบได้ ส่วนตัวเราก็ได้ทบทวนความรู้ไปในตัวด้วย เป็นการหารายได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่อีกด้วยค่ะ

         ช่วงสอบ มีเวลาเตรียมตัวยังไงบ้าง
         : หนูจะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือล่วงหน้าเยอะๆ เท่าไหร่ค่ะ ช่วงที่คนอื่นอ่านกัน หนูก็จะไปใช้ชีวิตให้เต็มที่เลย ให้ผ่อนคลายสุดๆ พอช่วงใกล้สอบ ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็จะอ่านหนังสือเต็มที่ แล้วค่อยไปสอบ จริงๆ แล้วมันเป็นไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วยแหละ แต่หนูถนัดแบบนี้มากกว่า 

มีสิ่งไหนที่อยากทำและยังไม่ได้ทำบ้าง

         : หนูอยากขับรถแข่งค่ะ อยากเป็นนักขับรถแข่ง เพราะหนูชอบความเร็ว ชอบนั่งอยู่ในรถแข่ง เวลาที่เครียดๆ พอเข้าไปนั่งอยู่นั้นจะหายเครียดได้เลยนะ ขนาดเป็นคนนั่งสนุก ถ้าเป็นคนขับรถจะต้องสนุกมากแน่ๆ แต่พ่อกับแม่ห่วงเรื่องอุบัติเหตุ จึงไม่ให้ขับรถค่ะ เพราะรู้ว่าเราชอบขับรถเร็วด้วย

แล้วเบอร์ดี้ เป็นคนแบบไหนกันแน่

         : เพื่อนๆ ชอบบอกว่า หนูมีความเบอร์ดี้สูงมาก เหมือนมีความเป็นตัวเองที่หนูก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นอะไร หนูชอบลองทำทุกอย่าง จริงๆ หนูเป็นคนอัธยาศัยดีมากนะ สนิทกับคนง่ายด้วย ชอบรู้จักเพื่อนใหม่ตลอดเวลา หนูชอบความเป็นตัวเองนะ ถึงว่ามันจะไม่ได้ดี แต่คำว่าดีคนอื่นเป็นคนนิยามไง แต่ถ้าเรากล้าที่จะเป็นเรา มันคือสิ่งที่ดีกว่า

         มนุษย์ทุกคน  born to be a difference อยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะกระแสสังคม วัฒนธรรมหรืออะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งหนูคิดว่า ตรงนั้นมันคือ กรอบที่จำกัดให้คนเหมือนๆ กัน ถ้าเราหลุดออกมาจากขีดจำกัดตรงนั้นได้ เราก็จะไม่รู้สึกกดดัน ศักยภาพของเราจะพัฒนาไปได้อีก

“อย่าไปกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
ถ้าเป็นสิ่งที่อยากทำ ก็ต้องกล้าที่จะทำต่อไปเลย”

         มีแนวคิดในการใช้ชีวิตยังไงบ้าง
         : หนูมีคติประจำใจที่ว่า “Be who you want to be not others want to see” เป็นในสิ่งที่คุณอยากเป็นไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นอยากให้เป็น เพราะสุดท้ายเราคือคนที่อยู่กับตัวเองไปตลอด ไม่ใช่คนรอบข้าง เราฟังคำแนะนำได้แต่สุดท้ายเราต้องเป็นคนตัดสินใจชีวิตของเราเอง และอย่าไปกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ถ้าเป็นสิ่งที่อยากทำ ก็ต้องกล้าที่จะทำต่อไปเลย และหนูเชื่อว่า คนเราเกิดมาแล้วใช้ชีวิตให้เต็มที่ในแบบที่อยากใช้ ทำทุกอย่างที่อยากทำ แก่ไปจะได้ไม่เสียดายเวลา หนูมีกฏเกณฑ์แค่ 2 ข้อ สำหรับจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง คือ 1. สิ่งที่ทำทำให้คนอื่นเดือนร้อนหรือเปล่า 2. เป็นสิ่งที่เราอยากทำหรือเปล่า ถ้าเราตอบคำถาม 2 ข้อนี้ได้ ก็จะเริ่มต้นทำสิ่งนั้นได้เสมอ 

อาชีพที่อยากทำในอนาคตคืออะไร

         : จริงๆ แล้ว อยากเป็นนักร้อง แต่ว่าหลังจากลองพยายามมาเยอะดูแล้ว ก็คิดว่าอาจไม่เหมาะจริงๆ ก็ได้ แต่เชื่อว่า วันหนึ่งถ้าเรายังไม่ล้มเลิก ความฝันจะไม่มีความเป็นไปไม่ได้ ต่อให้คนทั้งโลกบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่มีเราคนเดียวที่ยังเชื่อ ก็จะเป็นไปได้

         ส่วนอีกอาชีพนึงอยากทำคือ อยากเป็นนายกรัฐมนตรี ค่ะ เพราะหนูรู้สึกว่า ประเทศเรามีวิธีการจัดการทรัพยากรได้ไม่ดีเท่าทีควร ถ้ามีใครสักคนร่วมกันทำให้ประเทศมันก้าวไปได้ไกลกว่านี้ก็จะดี หนูชอบไปคุยกับคนที่ทำงานหลากหลายอาชีพ ทั้งพ่อค้าแม่ค้า ชาวนา ลุงยาม ก็ได้รู้ปัญหาของพวกเขานะคะ ความสำเร็จสูงสุดที่หนูอยากจะทำให้ได้ ก็คือการทำให้คนในประเทศมีความสุข และมีชีวิตที่ดีขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้  หลายๆ คนมักจะบอกว่า การที่มีความฝันที่ใหญ่ๆ จะเป็นไปได้เหรอ แต่หนูคิดว่า ฝันให้ใหญ่ๆ เข้าไว้ นั่นแหละแล้วเราจะหาทางไปถึงตรงนั้นได้ด้วยตัวเราเอง

นิยามของคำว่า intern cute boys and girl คือ

         : intern คือ การเก็บเกี่ยวหาประสบการณ์ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญหลายๆ คนคิดว่า intern cute boys and girl ต้องเป็นคนหน้าตาดีเท่านั้น แต่สำหรับหนูคิดว่า คนที่กล้าจะเป็นตัวเอง และสร้างสรรค์ หาประสบการณ์โดยไม่ย่อท้อต่อปัญหา และความผิดหวัง แต่พร้อมที่จะหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเอง และพัฒนาตัวเองให้ศักยภาพที่ดีขึ้น

 

Facebook : Birdie Karnokrut Thampanichawat
IG : berbirdy

cute boys cute girls เด็กน่ารัก