- Cute girls 2017 ประจำเดือนกรกฎาคม น้องปิ่น @ม.กรุงเทพ -

“เราอยากทำอะไร เราต้องทำได้
ไม่คิดว่าจะมีอะไรเป็นอุปสรรค ถ้าเราอยากจะทำจริงๆ”

 พิมพ์มธุรดา พุฒิกรวงศ์ (ปิ่น) ชั้นปีที่2

คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์  มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง ทำไมถึงเลือกเรียนภาพยนตร์

: คณะที่เรียนจะแยกเป็นฝั่งดิจิทัลและฝั่งภาพยนตร์ค่ะ ทีแรกหนูชอบเขียนบท แล้วสนใจงานเบื้องหลังเกี่ยวกับภาพยนตร์ก็เลยเลือกเรียนสายนี้

ตอนมัธยมได้ทำอะไรคล้ายๆ กับการทำหนังไหม

: เคยทำหนังสั้นบ้างแต่ไม่ได้จริงจัง แต่พอเข้ามหาวิทยาลัย ทำตั้งแต่เป็นเด็กเสิร์ฟน้ำ จนถึงผู้กำกับ เป็นสวัสดิการในกอง แล้วก็เริ่มเขียนบท หนูรู้สึกว่าตั้งแต่ทำอะไรมามากมายงานเขียนบทเป็นงานที่ชอบที่สุด

เขียนบทต้องทำยังไงบ้าง ตั้งแต่เริ่มแรกเลย

: ถ้าเขียนเองตามธีมที่ได้รับมา หรือสนใจก็คิดเองหมดเลย ตั้งแต่ต้นว่าจะเอาพล็อตเรื่องยังไง แต่ว่าถ้ามีโจทย์มาแล้วก็จะอิงตามผู้กำกับว่าต้องการยังไงค่ะ

เคยเขียนบทจริงๆ และคิดเองทั้งหมดไหม

:เคยค่ะ เคยคิดจะให้เพื่อนเอาไปส่งอาจารย์ด้วย พล็อตเรื่องประมาณว่าผู้ชายคนหนึ่งมีน้องสาว และน้องสาวเขามีปัญหาแต่ว่าจะยังไม่บอกว่ามีปัญหาอะไรที่ทำให้น้องสาวตัวเองเป็นแบบนี้

จากงานเขียนบท มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะได้อย่างไร

: ตอนแรกที่เข้าไปปี 1 เหมือนพี่เขาต้องการลีดเดอร์ ต้องการทำยอดให้มีน้องเข้าไปเยอะๆ ก็ให้เราเข้าไปคัดเลือก ทีแรกก็ไม่ได้อยากเป็นเลย เราอยากทำหนังทำอะไรมากกว่า แต่พอเข้าไปแล้วก็เริ่มสนิทกับเพื่อนก็ไม่อยากออกก็เลยอยู่ยาว

“เรื่องเต้นทำให้ร่างกาย Active รู้สึกมีความสุข

พอร่างกายเราพร้อมที่จะทำอะไรมันก็จะทำได้ทุกอย่าง”

 เชียร์ลีดเดอร์ต้องใช้ความสามารถด้านไหนบ้าง

: ความสามารถจริงๆ ด้านลีดเดอร์คือต้องใช้ความอดทน และอดทนมากจริงๆ เป็นหลีดมือแต่ก็มีส่วนที่เต้นด้วย

แบ่งเวลายังไงบ้างในการทำกิจกรรมกับการเรียน

: จริงๆ มันมีเวลาของมันอยู่ค่ะ แล้วตารางก็ไม่ได้ชนกันเลย จึงค่อนข้างลงตัว

 รู้สึกยังไงบ้างที่ต้องใช้เวลาส่วนนี้เยอะ พอว่างก็ต้องซ้อมลีดเดอร์

: หนูรู้สึกว่ามันมีหน้าที่ที่ต้องทำ หน้าที่ก็ส่วนหน้าที่ เรามีเวลาส่วนอื่นให้ทำในสิ่งที่อยากทำ เราก็จะแบ่งเวลาให้ถูกเท่านั้น

เคยเต้น cover dance มาก่อนด้วย

: หนูชอบศิลปินเกาหลีค่ะ ก็เลยเต้นแล้วก็ยาวเลย แต่ตอนนี้ส่วนใหญ่เพื่อนที่โคฟเกาหลีด้วยกันจะออกแนวสายสตรีท หนูก็เลยเต้นไปกับเพื่อนด้วย

 สิ่งที่ได้จากการ cover dance คืออะไร

: หนูว่าเรื่องเต้นทำให้ร่างกาย Active รู้สึกมีความสุข พอร่างกายเราพร้อมที่จะทำอะไรมันก็จะทำได้ทุกอย่างค่ะ

“มีหน้าที่ต้องทำ ก็ส่วนหน้าที่ เรามีเวลาส่วนอื่น

ให้ทำในสิ่งที่อยากทำเราก็จะแบ่งเวลาให้ถูกเท่านั้น”

บางคนมองว่าเรื่องแบบนี้ไร้สาระ แต่เราบอกได้ไหมว่ามันได้อะไรมากกว่าการเต้น

: เราก็บอกไม่ได้นะคะ มันจะมีจำพวกที่มองพวกเราแบบนี้ว่าไร้สาระ เราก็ไม่มีเหตุผลที่จะตอบลับคนพวกนี้ แต่เรามองว่ามันช่วยเราหลายๆ ด้าน อย่างเราต้องใช้ท่าในการเต้นหลีดเดอร์ มันก็ต้องคิดท่าให้น้องในปีต่อไป เราก็ต้องเต้นไปเรื่อยๆ ถ้าอยู่เฉยๆ ไอเดียคงไม่ออกมา

ณ ตอนนี้สิ่งที่เราอยากจะเป็นมากที่สุดคืออะไร

: เรารู้สึกว่าการเต้น กับเขียนบทมันอยู่ด้วยกันได้คือ เวลาเขียนบทเราจะคิดไอเดียอกมาตอนที่เราเหนื่อยๆ จากการเต้นหรือตอนเราพักผ่อน มันก็จะคิดพล็อตเรื่องออกมาได้เอง

แบบนี้จะเข้ากับคติประจำใจของปิ่นด้วยไหม

: ถ้าสมมติว่าเราอยากทำอะไรเราต้องทำได้ ไม่คิดว่าจะมีอะไรเป็นอุปสรรค ถ้าเราอยากจะทำจริงๆ

 เคยเจออุปสรรคที่หนักที่สุดไหม

: เคยมีปัญหาหลายๆ เรื่องพร้อมกันไปหมด ทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องครอบครัว แต่ตอนนั้นก็เลือกที่จะหยุดทุกอย่างก่อน ไม่ต้องตอบใคร ขอคิดกับตัวเองให้มากที่สุด บางทีการเงียบมันก็ไ่ม่ได้เป็นการหนีปัญหานะคะ บางคนมองว่าตอนนั้นเราหนีปัญหา แต่ตอนนั้นเราแค่ขอหยุดไปตั้งสติก่อนได้ไหม แล้วค่อยกลับมาเคลียร์เรื่องทุกอย่างเท่านั้นเอง

 มีสิ่งที่ชอบทำอีกไหม

: หนูชอบร้องเพลงค่ะ อยากเป็นนักร้อง แต่ที่บ้านไม่อยากให้ร้อง เขาบอกว่าเราร้องไม่เพราะบ้าง ร้องเพี้ยนบ้าง แต่หนูก็เคยไปประกวดและชนะมานะคะ หนูก็ไม่รู้ว่า หนูร้องเพี้ยนหรือเปล่า ไม่เข้าใจเหมือนกัน ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ ถ้าหนูชอบหนูก็อยากลองทำดูก่อน สมมุติว่าหนูใจฝ่อ ตั้งแต่ที่บ้านบอกว่าร้องไม่ดี ร้องเพี้ยน หนูก็คงไม่ได้ไปประกวดจนชนะ

 ถ้าเปรียบเราเป็นหนังเรื่องหนึ่งจะเปรียบเป็นเรื่องอะไร

:เรื่อง pixel เราคิดว่าชีวิตเราก็เป็นแบบในเรื่องเป็นกึ่งชีวิตจริง และการ์ตูน มันก็แปลกดีค่ะเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับตัวเราก็เกิดขึ้น

 นิยาม cute boy and girl ในฉบับของปิ่นคืออะไร

: เรารู้สึกว่า เหมือนเป็นนักศึกษาที่ต้องการพัฒนา ต้องการหาแนวทางการพัฒนาต่อไป เกี่ยวกับอาชีพที่ตนเองต้องการ

Facebook : Pinny' Pudhikornwong

IG : pinpudhy