เด็กฝึกงาน.com

คุยกับ “แป้งโกะ” ผู้หญิงที่มี “ความชอบ เป็นแรงบันดาลใจ”

  • ไลฟ์สไตล์
  • 5/7/17
  • 3,172
คุยกับ “แป้งโกะ” ผู้หญิงที่มี “ความชอบ เป็นแรงบันดาลใจ”

“แป้งโกะ” ผู้หญิงที่มี “ความชอบ เป็นแรงบันดาลใจ”
…..

.

“เราคิดเสมอว่า สิ่งที่ทำเกิดจากความชอบก่อน และเหมือนซึมซับจากสิ่งที่พ่อทำ…” 

จินตนัดดา  ลัมมะกานนท์ หรือ แป้งโกะ บอกเล่าจุดเริ่มต้นจะทำอะไรสักอย่างให้ดี มักมีความชอบเป็นแรงบันดาลใจเสมอ

‘การถ่ายรูป’ ก็เช่นกัน ถ้าใครตามไอจีของเธอคนนี้ จะเห็นว่า แป้งโกะเป็นคนหนึ่งที่มีมุมมองการถ่ายภาพไม่เหมือนใคร และถ่ายออกมาได้สวยมาก…เราได้มีโอกาสนั่งคุยกับเธอถึงแรงบันดาลใจที่จะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง จึงได้รู้ว่า ‘เธอคนนี้ใส่ใจ และความรู้สึกลงไปกับสิ่งที่ทำ ซึ่งไม่ใช่แค่ทำได้ แต่ทำได้ดีมากด้วย’

“เริ่มถ่ายรูปครั้งแรกตอนอายุ 7-8 ขวบ”

ตอนเด็กๆ พ่อพาไปเที่ยวเยอะมาก แล้วพ่อชอบถ่ายรูป ซึ่งสมัยก่อนเป็นกล้องฟิล์ม เราเห็นพ่อถ่ายรูปก็รู้สึกชอบ ก็ขอถ่ายบ้าง เขาก็เลยซื้อกล้องกระดาษให้ แบบที่ใช้แล้วเอาไปล้าง อัด และทิ้งเลย พออายุประมาณ 11 ปี พ่อก็ซื้อกล้องฟิล์มแบบ Auto Focus ให้ จำได้ว่าถ่ายครั้งแรกเป็นงานกีฬาสี เพื่อนๆ ก็ฮือฮามาก เพราะสมัยนั้นยังไม่มีใครถ่ายรูป เราก็รู้สึกว่า เฮ้ยเท่อะ หลังจากนั้นก็จะเอากล้องไปไหนมาไหนด้วยตลอด

 

“เรียนนิวซีแลนด์ ความชอบยิ่งชัดเจน”

ช่วง ม.ปลาย ไปเรียนนิวซีแลนด์ ก็ลงคลาสเรียนถ่ายรูป เป็นการสอนล้างฟิล์ม มีความเป็นวิทยาศาสตร์ปนกับศิลปะ หลักๆ เรียนเกี่ยวกับเคมี หลักแสงตกกระทบ แต่เอาการถ่ายรูปมาสอน ซึ่งถ่ายด้วยกล้องฟิล์มขาวดำ การถ่ายภาพที่นี่ไม่มีผิดไม่มีถูก ครูจะดูแค่ว่ารูปถ่ายสามารถสื่อสารออกมาได้เหมือนกับที่เราบอกหรือเปล่า ส่วนที่ไทยเราลงเรียนวิชาเลือก มันจะเกี่ยวกับการจัดแสงในสตูดิโอ แต่งภาพในโฟโต้ชอป เอาจริงๆ เราชอบการเรียนที่นิวซีแลนด์มากกว่า

“ชอบถ่ายภาพขาวดำ แต่แนวสตรีท แบบ…snap snap ก็ชอบนะ”

เป็นช่วง ม.ปลาย ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น เราชอบสะสมโปสการ์ดด้วย แล้วไปเจอโปสการ์ดเซตขาวดำ ซึ่งไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นภาพบ้านเรือนเก่าๆ มันแตกต่าง แต่สวย และดูนิ่ง เราชอบมาก และรู้สึกว่าสิ่งนี้แหละน่าจะเป็นภาพถ่ายแบบที่ควรจะเป็นเลยซื้อเก็บไว้ เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชอบถ่ายภาพขาวดำเลยก็ว่าได้…แต่เราก็ชอบถ่ายรูปแนวสตรีทด้วยนะ จะชอบถ่าย snap snap ไปเรื่อยๆ มากกว่า เรามักจะเลือกถ่ายอะไรก็ตามที่เราเห็นและอยากสื่อออกไปอยู่ดี แต่เอาจริงๆ เราถ่ายได้หลายแบบ มันขึ้นอยู่กับสถานที่ เวลา และคนที่ไปด้วยมากกว่า

“ถ่ายรูปในแต่ละที่ ความรู้สึกแตกต่างกัน”

ถึงเราจะชอบฟังเพลง ชอบร้องเพลงก็จริง แต่ถ้าถามว่า อะไรที่สื่อสารหรือถ่ายทอดความรู้สึกได้มากที่สุด ก็คือ ‘รูปถ่าย’ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆ จะเห็นเลยว่า บางทีภาพไม่ได้สวยมากมายหรอก แต่มันเป็นความสนุก ความรู้สึกตรงนั้นที่เกิดขึ้น หรือบางทีเราไปไหนคนเดียว รู้สึกเหงา เราก็จะมองแต่อะไรที่เหงาๆ หม่นๆ มาถ่าย เราจะมีความรู้สึกอยากออกไปไหนสักที่ เพื่อถ่ายรูปอย่างเดียวบ่อยมาก อย่างญี่ปุ่นเราชอบไปเพราะรู้สึกว่าไปง่าย และชอบแสงที่นั่น ซึ่งอุณหภูมิแสงของแต่ละประเทศจะไม่เหมือนกัน เชียงใหม่ แสงสวยกว่ากรุงเทพฯ อีกนะ แต่ในทุกการเดินทางไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์อะไร เราก็ไปถ่ายรูปนั่นแหละ

“แป้งโกะ กับงานอดิเรกหลายอย่าง”

นอกจากถ่ายรูป ก็จะมีงานศิลปะ อย่างวาดรูป ปลูกกระบองเพชร อ่านการ์ตูนมาเวล ฯลฯ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ทำแล้ว เพราะมีข้อจำกัดส่วนใหญ่คือ ‘เวลา’ เอาจริงๆ แล้วเราชอบวาดรูปมากก… แต่จะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่วาดไม่ค่อยเหมือน ก็เลยวาดไม่เสร็จ เพราะการวาดรูปมันเป็นงานระยะยาว แต่การถ่ายรูปมันแค่กดแชะๆ ก็ได้เลย หรืออาจเป็นเพราะว่าเราได้ไปเที่ยวด้วย ก็จะพกกล้องไปไหนมาไหนได้สะดวก ส่วนการวาดรูป เราจะไม่ค่อยวาดอะไรทั่วไป หลังๆ จะวาดรูปที่มีความหมายและมีความรู้สึกร่วมด้วย ล่าสุด เราวาดรูปในหลวง รัชกาลที่ 9 ไป 3 รูป แต่ตอนนี้ยังเหลืออีกรูปที่วาดไม่เสร็จ

“ถ่ายภาพ และวาดรูป การถ่ายทอดความรู้สึกต่อ ในหลวง รัชกาลที่9”

ตอนที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เราไม่ได้ไปร่วม ไปอยู่ตรงนั้นอย่างที่ตั้งใจจะไป เพราะต้องถ่ายละครให้จบ พอหลังจากนั้น เราอยากไปไหว้ อยากไปอยู่ใกล้ๆ พระองค์ท่าน ช่วงนั้นสนามหลวงยังโล่งอยู่ ยังไม่มีอะไรเลย คือไปถึงแล้ว ความรู้สึกมันอึนๆ ไปหมด มีคำถามวนในหัวตลอดเวลา เราคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนกัน พอมันรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราคิดว่าต้องหาที่ลง จึงเริ่มมองไปรอบๆ และหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย

 

“ตุลาคม ๒๕๕๙ – อยากบันทึกให้ได้ เท่าที่เห็นและรู้สึก”

พอถ่ายเสร็จ ก็เอารูปมาเรียงกัน เรารู้สึกได้ว่ารูปภาพเหล่านี้บรรยาย และถ่ายทอดความรู้สึกได้มากๆ เราก็เลยทำเป็นคอลเลกชัน “ตุลาคม ๒๕๕๙ – อยากบันทึกให้ได้ เท่าที่เห็นและรู้สึก” เพื่อบันทึกไว้ว่า ช่วงเหตุการณ์นี้ เรารู้สึก และถ่ายทอดออกมาแบบนี้ อย่างที่บอกว่า…การถ่ายรูปเป็นสื่อกลางที่ถ่ายทอดอารมณ์เราได้ดีที่สุด ส่วนชื่ออัลบั้มมันเกิดจากความรู้สึก ที่เป็นความรู้สึกจริงๆ ณ ขณะนั้น ที่อยากให้คนอื่นได้รับรู้ และเชื่อว่าทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน

“ความรู้สึก เป็นจุดเริ่มต้น”

การเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง แป้งโกะมักจะใช้ความรู้สึกนำ แต่เธอบอกว่า เคยมีเหมือนกัน ที่เริ่มทำไปแล้วไม่ชอบ แต่ก็ต้องทำให้จบ…เราเป็นชอบเที่ยว และเคยทำรายการท่องเที่ยว แต่มันกลายเป็นงานที่ต้อง tie-in สินค้ามากๆ  เราก็ไม่แฮปปี้กับมันเลยนะ เพราะเรารู้สึกว่ารายการท่องเที่ยวควรจะเป็นตัวของตัวเองมากกว่า

 

“การพัฒนา ไม่มีจุดสิ้นสุด”

เรารู้สึกว่า ทุกๆ เรื่อง มันไม่มีจุดสิ้นสุดของมันซักอย่าง ต้องพัฒนาขึ้นให้ดีขึ้นกว่าเดิม สมมุติว่า ปีนี้เราร้องเพลงได้แค่ 50 เต็ม100  ปีหน้าอาจจะได้ 100 เต็ม แต่เราก็ร้องเพลงแนวอื่นๆ อย่างลูกทุ่งไม่ได้อยู่ดี เราก็อยากจะเรียนรู้ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางทีตัวเราอาจจะทำได้ 100 เต็มแล้ว แต่ว่า เทรนด์เปลี่ยน เราก็ต้องพัฒนา ต้องปรับตัวให้ทัน

“ความเพอร์เฟค คือ สิ่งที่จับต้องไม่ได้”

เคยมีคนบอกเราเหมือนกันว่า เป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟคมาก คนที่บอกแบบนั้นคือ คนที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน ซึ่งไม่ผิด เพราะเขาไม่รู้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับเราบ้าง เรามีปัญหาอะไรในชีวิตบ้าง แต่ความเพอร์เฟคคือสิ่งที่มันจับต้องไม่ได้ เราเคยเจอบ่อยมาก ที่มีคนถามว่า ร้องเพลงได้จริงๆ หรือเปล่า ?  ยิ่งสมัยนี้การร้องเพลงมันมี Auto tune เข้ามาช่วย ก็ไม่แปลกที่คนจะสงสัย แต่สำหรับเราๆ ร้องสดตลอด พอมีคนถามก็รู้สึกเฉยๆ นะ เพราะเราก็ร้องได้ คุณลองไปดูใน YouTube ก็ได้ เราไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรมากนัก เพราะเราไม่ค่อยรู้สึกแย่กับคอมเมนต์เกรียนๆ เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคอมเมนต์ติชม เราก็จะเอามาพัฒนาตัวเองนะ 

 

“ไม่เก่ง ไม่ได้แปลว่า เริ่มไม่ได้”

เราไม่เคยเรียนร้องเพลง กีตาร์ก็หัดเอง แต่ก็กล้าเอาไปลง YouTube ฮ่าๆ เราได้เจอคอมเมนต์ในคลิปของเรา เขาบอกว่า ชอบพี่มากเลย ไม่ใช่เพราะว่าพี่ร้องเพลงเพราะที่สุด หรือเล่นกีตาร์เก่งที่สุด แต่เค้ารู้สึกว่า ไม่ต้องเล่นกีตาร์เก่งมาก หรือร้องเพลงเพราะมากเพื่อให้คนอื่นฟัง เราแแค่ชอบที่จะทำ แล้วรู้สึกว่าเป็นความสุขของเราที่ได้ทำ บางทีมันก็สะท้อนสิ่งที่เราเป็นเหมือนกันนะ เพราะเราก็ไม่ได้เก่งเลย แต่ไม่เก่งก็ไม่ได้แปลว่า เริ่มไม่ได้ซักหน่อย เราแค่รู้สึกชอบ และมีความสุขกับสิ่งที่ทำเท่านั้นเอง

“ตั้งเป้าจะทำ กับจุดมุ่งหมายในชีวิตต่างกัน”

เป้าหมายในปีนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเที่ยวมากกว่า พยายาม plan อะไรไม่ไกลมาก เพราะเคย plan อะไรไกลๆ แล้ว เราไปไม่ถึงก็รู้สึกไม่ดี กลายเป็นว่า ทำให้หลายๆ อย่างในชีวิตรวน แต่การ plan กับจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่เหมือนกัน…จุดมุ่งหมายในชีวิตเราแค่อยาก ‘ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และบั้นปลายชีวิตก็อยากไปอยู่ตามป่าตามเขา ปลูกบ้าน ทำสวน เปิดคาเฟ่  หรือถ้าแต่งงานก็อยู่กับสามีอย่างมีความสุข’ ส่วน plan ก็มีแค่ปีหน้าต้องผ่อนคอนโดให้หมดนะ แล้วปีต่อไปจะได้ซื้อรถให้แม่ เป็นการแพลนกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว และทำให้มันสำเร็จเท่านั้น

 

“เริ่มต้น 1-10 มีความสุขหมด”

เมื่อก่อน เราเคยรับถ่ายรูปงานรับปริญญา และถ่ายงานอีเว้นท์บ้าง เป็นเหมือนผู้ช่วยตากล้อง รู้สึกไม่ชอบเลย มันเหมือนกับว่าเราชอบทำบางอย่าง แต่มันไม่เหมาะกับทำเป็นงานของเรา เหมือนเรามีความคิดอยู่ในหัวตลอดว่า เราอยากถ่ายอะไร เห็นอะไรสวยก็ถ่ายตามใจเรา แต่พอเราได้ลองทำเป็นงาน ก็จะถูกกำหนดไว้ว่า ขอเน้นลูกค้ากลุ่มนี้ เน้นบรรยากาศแบบนี้ แต่บางครั้งเวลาเราไปเจอมุมสวยๆ หรือโมเมนต์น่ารักๆ ของลูกค้า เราก็อยากถ่ายเก็บไว้ แต่รูปกลับไม่มีความหมายต่อคนจ้าง ก็เลยรู้สึกว่าตัวเราอาจจะไม่เหมาะกับงานแบบนี้

ตอนนี้…ถ้าถามว่า เรามีความสุขกับสิ่งที่ทำ หรือว่าทำลงไปแล้ว จึงจะมีความสุข…เราบอกเลยว่า ‘ตั้งแต่เริ่มต้น 1-10 เรามีความสุขหมด’  เพราะเราได้ทำตามความรู้สึก ตามใจ และความชอบของเราอย่างเราชอบเที่ยว ชอบถ่ายรูป แค่เริ่มคิดว่าจะไปเที่ยว จะไปถ่ายรูป จะทำอะไรที่อยากทำก็มีความสุขแล้วอะ ไปเที่ยวกลับมาแล้ว แต่งรูปลงไอจีก็มีความสุขแล้ว…

เพราะมี “ความชอบ” เป็นจุดเริ่มต้น จึงเกิดเป็น “แรงบันดาลใจ” ที่ทำให้ “แป้งโกะ” ลงมือทำได้อย่างเต็มที่ และมี “ความสุข”  แล้วน้องๆ ล่ะ หาแรงบันดาลใจของตัวเองเจอกันหรือยัง ?

แรงบันดาลใจ