น้องๆ ทุกคนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็เพื่อต้องการความรู้ไปใช้ในการทำงานใช่มั๊ยคะ ใช้เวลาเรียนตลอดระยะเวลา 4 ปี แถมยังเสียเงินไปตั้งเยอะ ทั้งค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าชีท ค่าติว แต่ทำไมถึงกลัวว่า จบมาแล้วจะตกงาน? มีน้องๆ หลายคนที่คิดว่า ตัวเองทำงานไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีทักษะอะไรเลย เป็นเพราะหลักสูตรไม่ดีเหรอ หรือว่าอาจารย์สอนไม่เข้าใจ แต่ทำไมเพื่อนเราถึงเก่งได้ล่ะ ทั้งๆ ที่เรียนมาด้วยกัน

เขาฉลาดกว่าเราเหรอ?

เขาตั้งใจกว่าเราเหรอ?

เขามีความพยายามกว่าเรา ขยันกว่าเราเหรอ ?

หรือว่า จริงๆ แล้วน้องเลือกที่จะไม่เก่งเองต่างหาก…

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆ คน คงอยากเถียงว่าไม่จริงค่ะ ใครๆ ก็อยากเป็นคนเก่งทั้งนั้น จะมาบอกว่าเลือกที่จะไม่เก่งได้อย่างไรกัน ถ้าอย่างนั้นลองมาสำรวจตัวเองกันดูค่ะว่า เรามีความตั้งใจที่จะเก่งมากน้อยแค่ไหนกัน…

ถ้าหากน้องๆ อยากเรียนได้ A แต่เลือกที่จะไปเล่นเกมแทนที่จะอ่านหนังสือ หรือน้องๆ อยากเป็นนักการตลาดที่เก่ง ได้ทำงานในบริษัทแนวหน้าของเมืองไทย

แต่ทุกวันนี้ เวลาว่างยังเลือกที่จะอ่านข่าวซุบซิบดารา ในหัวมีข้อมูลดารามากกว่าความรู้การตลาดอีก แล้วน้องจะเป็นนักการตลาดที่เก่งได้อย่างไรคะ?

ผลลัพธ์จะเป็นไปตามสิ่งที่น้องเลือกทำค่ะ   เราทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอยากจะเก่งควรทำยังไง แต่ความยากอยู่ที่ว่าเราอยากจะเริ่มทำเมื่อไหร่มากกว่า สำหรับน้องๆ ที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราอยากให้น้องๆ ลองเริ่มทำ 2 อย่างค่ะ

1. ตั้งเป้าหมาย

2. เลือกที่จะบรรลุเป้าหมายให้ได้

การเลือกว่า “จะบรรลุเป้าหมายให้ได้” นี่สำคัญมากนะคะ “ถ้าตั้งเป้าแล้วไม่เลือกว่าจะสำเร็จ เป้าหมายคงเป็นได้แค่ความฝัน มันจะไม่ช่วยสร้างแรงผลักดันใดๆ” ถ้าหากว่าเลือกแล้วก็วิ่งหาวิธีการเรียนรู้ หาแหล่งเรียนรู้ พยายามหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ยิ่งเจอมาก ก็ยิ่งได้เปรียบกว่าคนที่ไม่เคยลองอะไรเลย ความรู้มีกระจายอยู่ทุกที่ค่ะ

‘การฝึกงาน’ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะเปิดโอกาสให้เราได้ลองอะไรใหม่ๆ ค้นหาสิ่งที่ชอบ ได้เจอประสบการณ์ เจอปัญหาในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน อาจจะยิ่งทำให้เราค้นพบตัวตนและความเก่งของตัวเองได้เร็วขึ้นด้วยนะคะ

ศศิวิมล เสียงแจ้ว

กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทิร์นชิพส์ (ไทยแลนด์) จำกัด