เด็กฝึกงาน สร้างกลยุทธ์ !!
ภายใต้สงครามของคนที่มีความสามารถในด้านต่างๆ ทุกบริษัทต้องแย่งชิงแรงงานหรือบุคลากรที่กำลังขาดแคลนกันอยู่ในตอนนี้ เพื่อให้มาเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรและขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้เมื่อเกิดการแย่งชิงก็ย่อมมีคนที่ได้และไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่เสมอ
แนวคิดของการรับเด็กฝึกงานในบางองค์กรจึงเกิดขึ้น
สมัยนี้ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า มุมมองที่แปลกใหม่บางครั้งก็เกิดจากเด็กที่มาฝึกงานกับเราเนี่ยแหละ และถ้าองค์กรไหนเปิดรับความคิดใหม่ๆ เหล่านั้น ก็อาจจะทำให้หลายๆ อย่างในองค์กรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งแนวคิดนี้เราเรียกมันว่า “Internship Strategy” มันเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ….
แล้วกลยุทธ์นี้มันตอบโจทย์กับคุณยังไงล่ะ ?
สิ่งหนึ่งที่ได้จากกลยุทธ์นี้อย่างชัดเจนเลยก็คือ “การได้คนมาทำงานในต้นทุนที่ต่ำ” เพราะโดยปกติแล้ว การรับคนมาทำงาน 1 คน ก็จะมีเรทเงินเดือนที่ค่อนข้างสูงหรือมีเรทเงินตามมาตรฐานของมันอยู่แล้ว จึงมีความเสี่ยงของการหาคนให้ตรงตามสเป็ค เพราะโดยส่วนใหญ่คนที่ตรงตามสเป็คก็คือคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อนแล้วทั้งนั้น และยังเสี่ยงต่อการทำงานได้ไม่นานก็ลาออกด้วย เนื่องจากปรับตัวเข้ากับที่ทำงานไม่ได้….
แล้วถ้าเป็น “เด็กฝึกงาน” ล่ะ ?
ทุกๆ ปีจะมีฤดูกาลของการฝึกงานจากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง จึงมีเด็กมาให้เลือกช้อปมากมาย อยากได้สเป็คแบบไหนก็มีให้ครบ ดังนั้นการเลือกเด็กมาฝึกงานจึงทำให้องค์กรประหยัดต้นทุนการจ้างได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็น “การพิจารณาผลงานตั้งแต่ยังไม่รับเข้าทำงาน” ได้ดีอีกด้วย ในกรณีนี้บริษัทมีสิทธิ์ที่จะดูฟอร์มของเด็กก่อนว่ามีฝีมือมากแค่ไหน เป็นงานหรือไม่ มีทักษะอะไรที่พัฒนาได้หรือไม่ได้บ้าง ไม่มีข้อผูกมัดว่าจะต้องรับหรือไม่รับ และที่สำคัญสามารถเลือกได้เลยว่าจะเอาใครหรือไม่เอาใครก็ได้ ท้ายที่สุดแล้วถ้าองค์กรเห็นว่าเด็กคนไหนมีฟอร์มที่เข้าตา คุณก็มีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะปั้นเด็กคนนั้นแล้วจับมาเซ็นต์สัญญาเป็นตัวจริงได้ก่อนใครทันที ไม่ต้องเสียเวลาหรือเสียเงินลงประกาศเพื่อหาคนทำงานใหม่เลย
กลยุทธ์เด็กฝึกงานจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมาก
เพราะเด็กฝึกงานไม่ใช่แค่มาฝึกงานเพื่อเอาชั่วโมงเรียนหรือเกรดแล้วก็จบๆ ไป
หากเรามองเห็นถึงศักภาพของเด็กคนนั้นแล้วนำมาต่อยอด
เพื่อให้กลายเป็นพนักงานที่ดีและมีความสามารถคนหนึ่งในองค์กรของเราได้เลยนะ