“รับนศ. ฝึกงาน เหมือนยิงปืนนัดเดียว แต่ได้ถึง 2”
หลายคนกำลังน่านิ่ว คิ้วขมวด และสงสัยอยู่ใช่ไหมว่า ทำไมถึงเปรียบเปรยการ “รับนักศึกษาฝึกงาน เหมือนกับ การยิงปืนนัดเดียว แต่ได้ถึง 2”
เล็ง...
เหนี่ยวไก...
นัดที่ 1 ได้ผู้ช่วย
ถ้าบริษัทไม่ได้มีงานล้นมือ หรือทำงานไม่ทัน ก็เป็นเรื่องยากที่จะรับนักศึกษาฝึกงาน แต่ก็ยังมีบริษัทอีกไม่น้อย ที่ต้องการนักศึกษาฝึกงานเข้ามาเป็น ‘ผู้ช่วย’ หรือจะเรียกว่าเป็น ‘ลูกมือ’ ในบริษัทก็ได้ แต่อย่าลืมสอนงาน และให้คำแนะนำพวกเขาอย่างเต็มที่ เมื่อมอบหมายงานที่เป็นงานจริงๆ ให้ทำ เขาจะทำได้ ถึงแม้งานอาจจะออกมาไม่สมบูรณ์ หรือไม่ตรงตามความต้องการที่สุด แต่เขาคือ 'ผู้ช่วยที่ได้แบ่งเบาภาระงานที่ล้นมือ ให้เสร็จเร็วขึ้น ' เราก็มีหน้าที่ตรวจสอบ แนะนำ และแก้ไขให้งานออกมา Perfect ที่สุดเท่านั้นเอง
“นักศึกษาฝึกงาน คือ
ผู้ช่วยแบ่งเบาภาระงาน ให้กับคุณและบริษัท”
นัดที่ 2 คนทำงานในอนาคต
บริษัทไม่จำเป็นต้องมีนักศึกษาฝึกงานก็ได้ แต่นักศึกษาต้องฝึกงาน นอกเหนือจากข้อกำหนดที่ต้องฝึกงานตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัย เขามาฝึกงานเพื่อขอวิชาจากเรา มาเรียนรู้ และเตรียมพร้อมสู่ชีวิตการทำงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
บริษัทมีหน้าที่สอน ถ่ายทอดความรู้ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงานให้กับเขา เมื่อน้องได้ความรู้ พี่ก็ได้ทบทวนความรู้ตัวเอง บทบาทระหว่างพี่กับน้องในที่ฝึกงาน จึงเหมือนครูกับลูกศิษย์ ที่คนหนึ่งรับ คนหนึ่งให้ และแลกเปลี่ยนกันที่ฝึกงานจึงเป็นเหมือนพื้นที่บ่มเพาะความรู้ ทักษะ ประสบการณ์การทำงาน พี่เลี้ยงเหมือนครูที่คอย สอน หล่อหลอม และขัดเกลาพวกเขาให้เป็นคนทำงานที่มีคุณภาพในอนาคต
'นักศึกษาฝึกงานเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาต่อไปได้อีกไกล การรับนักศึกษาฝึกงานเข้ามาเป็นผู้ช่วยงานในบริษัท ก็เหมือนเรากำลังทำความรู้จัก และทำความเข้าใจว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจอะไรบ้าง ถือว่าอัปเดตตัวเองไปในตัว เพื่อนำมาต่อยอดกับการทำงานในบริษัท'
'อีกอย่างคือ บริษัทก็จะได้เรียนรู้ฝีมือการทำงาน เผื่อว่าในอนาคตจะได้ทำงานร่วมกัน หรือเขาอาจจะเป็นคนทำงานในบริษัทเราก็ได้'
“นักศึกษาฝึกงานเป็นคนรุ่นใหม่
ที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาต่อไป”
มาเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาองค์กร และประเทศให้ก้าวหน้าไปพร้อมๆ กันได้ที่ เด็กฝึกงานดอทคอม...http://bit.ly/2tmvzXo