เด็กฝึกงาน.com

ค้นพบตัวเอง รู้จักตัวตน เพื่อพบอาชีพในอนาคต

  • บทความนักศึกษา
  • 7/6/17
  • 4,780
ค้นพบตัวเอง รู้จักตัวตน เพื่อพบอาชีพในอนาคต

“เราจะเป็นคนที่โชคดีและมีความสุขที่สุด
ถ้าเราค้นพบตัวเอง รู้ว่าเราชอบอะไร และได้ทำในสิ่งที่เราชอบ”

         หลายคนมักจะมีคำถามในใจเสมอว่า “เรียนอะไรดี เราถนัดอะไรกันแน่ แล้วเราอยากทำงานอะไร และอาชีพไหนที่เราใฝ่ฝัน” ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่เราจะรู้จักและค้นพบว่า “เราชอบและรักอะไรจริงๆ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลการเรียนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ถูกยึดไว้แล้วว่าเป็นหลักในการวัดความสามารถของน้องๆ ดังนั้นศักยภาพด้านอื่นที่ไม่โชว์ในผลการเรียน จึงถูกมองข้ามไปหรือไม่ได้รับการใส่ใจในตอนแรก

         ในเมื่อการเดินทางตามหาตัวตนและความฝันของเรา มันคือเส้นทางที่ต้องใช้เวลาในการค้นหา จะเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับการกระทำและความเข้าใจ เราจึงมีเทคนิคและคำแนะนำดีๆ เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยกระตุ้นให้เราค้นพบตัวเองได้เร็วขึ้น อาจจะไม่ใช่บทสรุปหรือทฤษฎีแต่มันก็จะช่วยให้เราเดินตามหาความฝันได้แน่นอน

เรียน

ทำความรู้จักกับตัวเองอย่างสุดๆ
         พี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ (ผู้ก่อตั้งนิตยสาร a day) ได้เล่าไว้ว่า “ในสมัยที่เรียนจบใหม่ๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำลังค้นหาตัวเอง เทคนิคหนึ่งที่ใช้ได้ดี ก็คือ ให้เราหยิบกระดาษใหญ่ๆ ขึ้นมาแผ่นหนึ่ง แบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งซ้ายให้เขียนสิ่งที่ตัวเองชอบลงไปให้หมดทุกอย่าง ส่วนอีกฝั่งก็ให้เขียนในสิ่งที่ตรงข้ามกันหรือสิ่งไม่ชอบทุกอย่าง นั้นคือเราจะรู้จักความชอบและไม่ชอบของตัวเองแล้ว หลังจากนั้นก็หยิบกระดาษขึ้นมาอีกแผ่นหนึ่ง แล้วแบ่งเป็นสองฝั่งเช่นเดิม คราวนี้ฝั่งซ้ายให้เขียนในสิ่งที่เราถนัดทั้งหมดลงไป เราทำสิ่งไหนได้ดี มีคนชม ก็เขียนมันลงไป ส่วนอีกฝั่ง ก็เขียนสิ่งที่กันตรงข้ามคือเขียนสิ่งที่ไม่ถนัดลงไป” เท่านี้ก็เป็นขั้นแรกของการรู้จักตัวเองแล้ว เพราะเราคงหางานที่เหมาะกับเราไม่ได้ หากเราไม่รู้ว่าตัวเราเองเป็นยังไง

ออกมาจาก Comfort Zone หาประสบการณ์ใหม่ๆ และเพิ่มทางเลือกให้ชีวิต
         เคยได้ยินมั้ยว่า “โลกมันกว้างกว่าที่คุณคิด” ยิ่งเราเห็นโลกมากเท่าไร ก็ยิ่งมีทางเลือกให้เรามากขึ้นเท่านั้น การอ่านหนังสือหรืออ่านบทความที่มีประโยชน์ก็เป็นการเปิดโลกได้เช่นกัน พยายามหาประสบการณ์ใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เป็นตัวเรา นั่นแหละคือการทำให้เรายิ่งค้นพบตัวเองไวขึ้น

พยายามตั้งคำถามกับตัวเองและสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
         การตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบในบางครั้ง ก็อาจจะไม่ได้ในทันทีทันใด เพราะต้องใช้ระยะเวลา และเมื่อได้คำตอบมาแล้ว ก็ให้เราตั้งคำถามต่อๆ ไป เพราะหากเราไม่คิดจะตั้งคำถาม ไม่คิดจะค้นหา เราก็จะไม่ได้คำตอบในสิ่งที่เราต้องการ และการสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ว่าเรารู้สึกกับอาชีพต่างๆ ที่ได้รู้จักนั้นยังไง อาชีพไหนที่เราอ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้นหรือสนใจเป็นพิเศษ ที่และถ้าอาชีพนั้นทำให้เรามีความรู้สึกอิจฉาอย่างแรงกล้าว่า “เฮ้ย !! อยากทำแบบนี้” นั่นแหละคืออาชีพที่ผ่านเข้ารอบและน่าจะเป็นอาชีพที่ใช่ที่สุดของเรา

ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ในพจนานุกรมของเรา
         หลายคนมักจะมีความคิดในใจว่า “มันจะเป็นไปได้ยังไงนะ” แต่รู้มั้ยว่าทุกๆ ครั้งที่เราคิดแบบนั้น ก็มีอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จจาก “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้” แล้วนะ เหตุผลเพราะว่า พวกเขาเหล่านั้น มองเห็นและยอมรับโอกาสที่มันน้อยนิดเอาไว้ เพื่อสร้างสิ่งที่เป็นความฝันให้เกิดขึ้นจริง เพราะทุกอย่างมันมีทางของมันที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ เพียงแค่เราหาทางนั้นให้เจอ ใครเจอก่อนก็ประสบความสำเร็จก่อน และที่สำคัญคนที่เจอก่อน เพราะเขายอมรับโอกาสที่เข้ามานั่นเอง

พิสูจน์ความฝันและตอกย้ำความเชื่อ
         ถ้าเราเจอสิ่งที่เราอยากทำแล้ว นั่นยังไม่พอ เราต้องหาข้อมูลเพื่อให้รู้จักสิ่งนั้นในทุกแง่มุม ทั้งสิ่งที่สวยงามและปัญหาหรือความลำบาก เพื่อที่จะถามตัวเองว่ารับมันได้ไหม ยังอยากทำมันอยู่หรือเปล่า ถ้ารับได้และอยากจะทำอยู่ ก็ลงมือทำทันที เพื่อลองดูว่าเราจะอยู่กับมันได้จริงมั้ย

ตัดความกังวลเรื่องความสามารถออกไป
         ความกังวล คือ อุปสรรคแรกที่เราจะเจอ ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนความคิดจาก “เราจะทำได้เหรอ” เป็น “อยากทำมันเปล่าล่ะ” เพราะถ้าอยากทำซะอย่าง “ความอยาก ก็เอาชนะ ความยาก” ได้เหมือนกัน แน่นอนอยู่แล้วว่าคนเราเกิดมาไม่ได้เก่งทุกอย่าง ทุกคนไม่ได้เกิดมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ให้คิดไว้เสมอว่า “ความเก่ง” ไม่สำคัญเท่ากับ “ความอยากเก่ง” และ “ความอยากเก่ง” ก็ไม่สำคัญเท่ากับ “ความเชื่อว่าเราจะเก่งขึ้นได้” แค่มีใจสู้และความอยาก เราก็พร้อมที่จะ พัฒนาในสิ่งที่เรารักและสิ่งที่เราอยากเป็นได้แล้ว

ลงมือทำอย่างเต็มที่
          ความฝันที่เราเจอแล้ว จะไม่มีค่าเลยถ้าเราไม่ลงมือทำมันให้เกิดขึ้นจริง มันก็เหมือนกับเวลาเราหิวข้าว ถ้าเราไม่เดินออกไปหาอะไรกินหรือทำอะไรกิน เราจะแก้ความหิวนั้นได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย

ออกมาจาก Comfort Zone หาประสบการณ์ใหม่ๆ และเพิ่มทางเลือกให้ชีวิต
         เคยได้ยินมั้ยว่า “โลกมันกว้างกว่าที่คุณคิด” ยิ่งเราเห็นโลกมากเท่าไร ก็ยิ่งมีทางเลือกให้เรามากขึ้นเท่านั้น การอ่านหนังสือหรืออ่านบทความที่มีประโยชน์ก็เป็นการเปิดโลกได้เช่นกัน พยายามหาประสบการณ์ใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เป็นตัวเรา นั่นแหละคือการทำให้เรายิ่งค้นพบตัวเองไวขึ้น

พยายามตั้งคำถามกับตัวเองและสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
         การตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบในบางครั้ง ก็อาจจะไม่ได้ในทันทีทันใด เพราะต้องใช้ระยะเวลา และเมื่อได้คำตอบมาแล้ว ก็ให้เราตั้งคำถามต่อๆ ไป เพราะหากเราไม่คิดจะตั้งคำถาม ไม่คิดจะค้นหา เราก็จะไม่ได้คำตอบในสิ่งที่เราต้องการ และการสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ว่าเรารู้สึกกับอาชีพต่างๆ ที่ได้รู้จักนั้นยังไง อาชีพไหนที่เราอ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้นหรือสนใจเป็นพิเศษ ที่และถ้าอาชีพนั้นทำให้เรามีความรู้สึกอิจฉาอย่างแรงกล้าว่า “เฮ้ย !! อยากทำแบบนี้” นั่นแหละคืออาชีพที่ผ่านเข้ารอบและน่าจะเป็นอาชีพที่ใช่ที่สุดของเรา

ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ในพจนานุกรมของเรา
          หลายคนมักจะมีความคิดในใจว่า “มันจะเป็นไปได้ยังไงนะ” แต่รู้มั้ยว่าทุกๆ ครั้งที่เราคิดแบบนั้น ก็มีอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จจาก “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้” แล้วนะ เหตุผลเพราะว่า พวกเขาเหล่านั้น มองเห็นและยอมรับโอกาสที่มันน้อยนิดเอาไว้ เพื่อสร้างสิ่งที่เป็นความฝันให้เกิดขึ้นจริง เพราะทุกอย่างมันมีทางของมันที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ เพียงแค่เราหาทางนั้นให้เจอ ใครเจอก่อนก็ประสบความสำเร็จก่อน และที่สำคัญคนที่เจอก่อน เพราะเขายอมรับโอกาสที่เข้ามานั่นเอง

พิสูจน์ความฝันและตอกย้ำความเชื่อ
         ถ้าเราเจอสิ่งที่เราอยากทำแล้ว นั่นยังไม่พอ เราต้องหาข้อมูลเพื่อให้รู้จักสิ่งนั้นในทุกแง่มุม ทั้งสิ่งที่สวยงามและปัญหาหรือความลำบาก เพื่อที่จะถามตัวเองว่ารับมันได้ไหม ยังอยากทำมันอยู่หรือเปล่า ถ้ารับได้และอยากจะทำอยู่ ก็ลงมือทำทันที เพื่อลองดูว่าเราจะอยู่กับมันได้จริงมั้ย

ตัดความกังวลเรื่องความสามารถออกไป
         ความกังวล คือ อุปสรรคแรกที่เราจะเจอ ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนความคิดจาก “เราจะทำได้เหรอ” เป็น “อยากทำมันเปล่าล่ะ” เพราะถ้าอยากทำซะอย่าง “ความอยาก ก็เอาชนะ ความยาก” ได้เหมือนกัน แน่นอนอยู่แล้วว่าคนเราเกิดมาไม่ได้เก่งทุกอย่าง ทุกคนไม่ได้เกิดมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ให้คิดไว้เสมอว่า “ความเก่ง” ไม่สำคัญเท่ากับ “ความอยากเก่ง” และ “ความอยากเก่ง” ก็ไม่สำคัญเท่ากับ “ความเชื่อว่าเราจะเก่งขึ้นได้” แค่มีใจสู้และความอยาก เราก็พร้อมที่จะ พัฒนาในสิ่งที่เรารักและสิ่งที่เราอยากเป็นได้แล้ว

ลงมือทำอย่างเต็มที่
         ความฝันที่เราเจอแล้ว จะไม่มีค่าเลยถ้าเราไม่ลงมือทำมันให้เกิดขึ้นจริง มันก็เหมือนกับเวลาเราหิวข้าว ถ้าเราไม่เดินออกไปหาอะไรกินหรือทำอะไรกิน เราจะแก้ความหิวนั้นได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย

ออกมาจาก Comfort Zone หาประสบการณ์ใหม่ๆ และเพิ่มทางเลือกให้ชีวิต
         เคยได้ยินมั้ยว่า “โลกมันกว้างกว่าที่คุณคิด” ยิ่งเราเห็นโลกมากเท่าไร ก็ยิ่งมีทางเลือกให้เรามากขึ้นเท่านั้น การอ่านหนังสือหรืออ่านบทความที่มีประโยชน์ก็เป็นการเปิดโลกได้เช่นกัน พยายามหาประสบการณ์ใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เป็นตัวเรา นั่นแหละคือการทำให้เรายิ่งค้นพบตัวเองไวขึ้น

พยายามตั้งคำถามกับตัวเองและสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
         การตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบในบางครั้ง ก็อาจจะไม่ได้ในทันทีทันใด เพราะต้องใช้ระยะเวลา และเมื่อได้คำตอบมาแล้ว ก็ให้เราตั้งคำถามต่อๆ ไป เพราะหากเราไม่คิดจะตั้งคำถาม ไม่คิดจะค้นหา เราก็จะไม่ได้คำตอบในสิ่งที่เราต้องการ และการสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ว่าเรารู้สึกกับอาชีพต่างๆ ที่ได้รู้จักนั้นยังไง อาชีพไหนที่เราอ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้นหรือสนใจเป็นพิเศษ ที่และถ้าอาชีพนั้นทำให้เรามีความรู้สึกอิจฉาอย่างแรงกล้าว่า “เฮ้ย !! อยากทำแบบนี้” นั่นแหละคืออาชีพที่ผ่านเข้ารอบและน่าจะเป็นอาชีพที่ใช่ที่สุดของเรา

ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ในพจนานุกรมของเรา
         หลายคนมักจะมีความคิดในใจว่า “มันจะเป็นไปได้ยังไงนะ” แต่รู้มั้ยว่าทุกๆ ครั้งที่เราคิดแบบนั้น ก็มีอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จจาก “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้” แล้วนะ เหตุผลเพราะว่า พวกเขาเหล่านั้น มองเห็นและยอมรับโอกาสที่มันน้อยนิดเอาไว้ เพื่อสร้างสิ่งที่เป็นความฝันให้เกิดขึ้นจริง เพราะทุกอย่างมันมีทางของมันที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ เพียงแค่เราหาทางนั้นให้เจอ ใครเจอก่อนก็ประสบความสำเร็จก่อน และที่สำคัญคนที่เจอก่อน เพราะเขายอมรับโอกาสที่เข้ามานั่นเอง

พิสูจน์ความฝันและตอกย้ำความเชื่อ
         ถ้าเราเจอสิ่งที่เราอยากทำแล้ว นั่นยังไม่พอ เราต้องหาข้อมูลเพื่อให้รู้จักสิ่งนั้นในทุกแง่มุม ทั้งสิ่งที่สวยงามและปัญหาหรือความลำบาก เพื่อที่จะถามตัวเองว่ารับมันได้ไหม ยังอยากทำมันอยู่หรือเปล่า ถ้ารับได้และอยากจะทำอยู่ ก็ลงมือทำทันที เพื่อลองดูว่าเราจะอยู่กับมันได้จริงมั้ย

ตัดความกังวลเรื่องความสามารถออกไป
         ความกังวล คือ อุปสรรคแรกที่เราจะเจอ ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนความคิดจาก “เราจะทำได้เหรอ” เป็น “อยากทำมันเปล่าล่ะ” เพราะถ้าอยากทำซะอย่าง “ความอยาก ก็เอาชนะ ความยาก” ได้เหมือนกัน แน่นอนอยู่แล้วว่าคนเราเกิดมาไม่ได้เก่งทุกอย่าง ทุกคนไม่ได้เกิดมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ให้คิดไว้เสมอว่า “ความเก่ง” ไม่สำคัญเท่ากับ “ความอยากเก่ง” และ “ความอยากเก่ง” ก็ไม่สำคัญเท่ากับ “ความเชื่อว่าเราจะเก่งขึ้นได้” แค่มีใจสู้และความอยาก เราก็พร้อมที่จะ พัฒนาในสิ่งที่เรารักและสิ่งที่เราอยากเป็นได้แล้ว

ลงมือทำอย่างเต็มที่
         ความฝันที่เราเจอแล้ว จะไม่มีค่าเลยถ้าเราไม่ลงมือทำมันให้เกิดขึ้นจริง มันก็เหมือนกับเวลาเราหิวข้าว ถ้าเราไม่เดินออกไปหาอะไรกินหรือทำอะไรกิน เราจะแก้ความหิวนั้นได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย

ศึกษา

         สุดท้ายแล้ว… การจะค้นพบตัวตนที่แท้จริง สำหรับบางคนมันก็ง่าย สำหรับบางคนมันก็ยาก แต่อยากให้รู้ไว้ว่าทุกคนสามารถ “พบเจอในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้” ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามวันและเวลา แต่ชีวิตก็ต้องตั้งคำถามและค้นหาต่อไป ซึ่งในที่สุดคำตอบที่ใช่ ก็จะปรากฏให้เห็นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก www.unigang.com  

ตัวเอง ค้นพบ โชคดี ความสุข