มาดูกันว่า "ฝึกงานแล้วได้อะไร"

ฝึกตรงสาย / ฝึกไม่ตรงสาย

         ก่อนอื่นมารู้กันก่อนว่า ฝึกตรงสาย กับ ฝึกไม่ตรงสาย ต้องเลือกยังไง ซึ่งโดยส่วนใหญ่นักศึกษามักเลือกฝึกงานตรงสายที่ได้เรียนมา เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน แต่ก็มีหลายคน โดยเฉพาะคนที่ขอฝึกงานเอง ไม่เกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอน ซึ่งนักศึกษาเหล่านี้มองว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และคิดว่าอนาคตจะได้ใช้ประโยชน์จากการฝึกงานเหล่านี้ แต่ถ้าการฝึกไม่ตรงสายก็เป็นเหมือนทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เราได้รู้ว่าเราชอบและไม่ชอบอะไรเหมือนกันนะ

แล้วฝึกงาน ได้อะไรล่ะ ?

         หลายคนอาจมาฝึกงานด้วยเหตุผลที่ว่า “ไม่ฝึกไม่จบ” การฝึกงานของพวกเขาก็มักจะเป็นอะไรที่ทำไปให้ผ่านๆ ไม่เน้นผลในอนาคต ซึ่งแบบนี้พี่บัฟ ไม่แนะนำเลยนะ เพราะการฝึกงานเราควรจริงจังและใส่ใจมากกว่านี้ เพราะสิ่งที่ตามมายิ่งใหญ่แน่นอน “อย่าให้การฝึกงานเป็นแค่ทางผ่านของตัวจบ” เมื่อรู้แบบนี้แล้ว มาดูกันว่า ฝึกแล้วได้อะไรบ้าง

• ประสบการณ์ – แน่นอนว่าเราจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่มีให้รู้ในตำราอีกมาก นั้นคือของจริงที่เราจะต้องเจอ เราจะเริ่มเรียนรู้ว่าสิ่งที่เรียนมาสามารถนำไปเชื่อมโยงกันได้อย่างไร
• ความรับผิดชอบ – แน่นอนว่าความรับผิดชอบในการเรียนนั้นไม่มากเท่าการทำงานจริง เพราะมันมีผลกระทบต่อองค์กร ไม่ใช่แค่ตัวเอง ดังนั้นงานที่ทำไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เป็นการทำเพื่อองค์กร
• การใช้ชีวิต – สำหรับคนที่ฝึกงานในที่ต่างถิ่น หรือนอกพื้นที่เดิม จำเป็นต้องมีการปรับตัว ปรับวิถีชีวิต และนั่นถือเป็นอีกบทเรียนล้ำค่าของการฝึกงาน
• มิตรภาพ – การฝึกงานทำให้เราพบเจอคนใหม่ๆ ทั้งหัวหน้า รุ่นพี่ พี่เลี้ยง และบางครั้งอาจเจอเพื่อนต่างมหาวิทยาลัยอีกด้วย ด้วยความที่สายงานใกล้กัน ทำให้ความสัมพันธ์นั้นอาจเป็นประโยนช์ต่อเราในอนาคต อาจได้ทำงานร่วมกัน หรือขอความช่วยเหลือกัน
• ได้งานทำ – สิ่งที่เครียดกว่าการเรียนคือการหางานทำ หากใครฝึกงานในองค์กรที่ตัวเองชอบ แล้วทำงานดี บางครั้งก็มักถูกทาบทามให้มาทำงานเมื่อเรียนจบอยู่บ่อยๆ และหลายครั้งถึงแม้เราจะไม่ได้ทำงานที่นั้นๆ แต่รุ่นพี่หรือคนในองค์กรก็จะสามารถช่วยเราหางานในที่อื่นๆได้