เด็กฝึกงาน.com

7 ข้อควรรู้ สมัครฝึกงานแบบนี้...โดนเทแน่

  • บทความนักศึกษา
  • 7/5/18
  • 35,463
7 ข้อควรรู้ สมัครฝึกงานแบบนี้...โดนเทแน่

     ประตูด่านแรกที่เราต้องเจอเลยก็หนีไม่พ้นการสมัครฝึกงานที่มีรายละเอียดและขั้นตอนนู่นนี่นั่นให้เราได้แนะนำตัวว่ามีอะไรดีทำไมองค์กรถึงต้องรับเรา หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในตอนสมัครฝึกงานนี่ล่ะที่ทำให้บางคนชวดงานที่ตัวเองตั้งเป้าไว้ จนเกิดคำถามคาใจว่า ทำไมหนอสมัครฝึกงานไปกี่ที่ก็แล้ว ยังไม่มีวี่แววตอบกลับมา เอ๊ะ เราลืมอะไรไปหรือเปล่า พี่ๆ เค้าถึงไม่เรียกไปฝึกงานซักที

     บทความนี้เป็นตัวช่วยชี้คำตอบให้กับเหล่านักศึกษาที่อยากสมัครฝึกงาน ได้ลองสำรวจตัวเองไปด้วยกันว่าเรามีหรือขาดอะไรที่ต้องใช้ในการสมัครฝึกงาน ทำไม๊ ทำไม เราถึงนกตล้อดดด มาดูกันว่าตอนสมัครฝึกงานเราพลาดตรงไหนไปบ้างจนพี่ๆ เห็นแล้วปวดใจส่ายหัวไม่รับเราเข้าทำงาน  

 1. นี่หรือคือชื่ออีเมล 

     โอ๊ะโอ สมัครฝึกงานทั้งที แม้แต่ชื่ออีเมลก็มองข้ามไม่ได้นะจ๊ะ เพราะส่วนแรกที่พี่ๆ เค้าอ่านเจอ แถมยังบ่งบอกตัวตนของเราได้สุดๆ เลยล่ะ ถ้าไม่อยากโดนเทตั้งแต่พึ่งเริ่มสมัครฝึกงาน ด้วยความสับสนมึนงงเพราะคิดว่าเป็นอีเมลแปลกปลอมจนพี่ๆ ไม่กล้าเปิดอ่าน แนะนำว่าอย่าใช้ชื่อเล่นหรือสัญลักษณ์อะไรที่ไม่จำเป็น แต่ควรใช้ชื่อบัญชีเฉพาะที่ดูเป็นทางการและชัดเจน เพื่อให้สะดวกเวลาติดต่อขอสมัครฝึกงานจะดีที่สุด

 2. เขียนอีเมลเหมือนสนิทกันเบอร์นั้น  

     การส่งอีเมลสมัครฝึกงาน บอกเลยว่าภาษาที่ใช้แบบเป็นกันเองเกินไปหรือศัพท์ยอดฮิตทั้งหลาย อาจทำให้เราดูไม่เป็นมืออาชีพได้ ดีไม่ดีเราอาจโดนมองว่าเป็นคนไร้มารยาทเพราะไม่รู้จักกาลเทศะ การเขียนอีเมลสมัครฝึกงานที่ดูเหมือนจะคิดน้อยไปอาจทำให้พี่ๆ ไม่ประทับใจ ต้องรีบแก้ไขด่วนๆ ควรเริ่มต้นแนะนำตัวเวลาส่งอีเมลสมัครฝึกงานด้วยชื่อแทนตัวเองที่สุภาพ เช่น ผม ดิฉัน หรือจะเกริ่นนำสวยๆ ด้วยภาษาที่ดูเป็นทางการหน่อย แล้วอย่าลืมเช็คคำผิดด้วยน้า

 3. Resume ไม่น่าสนใจเอาซะเลย 

     แน่นอนว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่ต้องการสมัครฝึกงาน พี่ๆ หลายคนอาจกำลังมองหา Resume หรือ Portfolio ที่ทั้งโดดเด่น เป๊ะ ปัง และเรียบง่าย ไม่ใช่การเขียนใส่กระดาษสีขาวลอยๆ เพื่อดึงดูดความสนใจคนอ่านตั้งแต่แว้บแรกที่เห็น การคลีเอทให้สร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ใน Resume หรือ Portfolio ของเรา เรียกได้ว่าต้องสะกดจิตพี่ๆ จนต้องรีบโทรหาเพื่อเรียกตัวเข้ามาฝึกงานทันที เพราะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของเราในการสมัครฝึกงาน

 4. จัดเต็มข้อมูลส่วนตัวแต่ไม่เกี่ยวกับงาน  

     “งานอดิเรกยามว่าง สีที่ชอบ กีฬาที่ถนัด ดราม่าชีวิตที่ผ่านมา” ส่วนนี้ไม่จำเป็นอย่างแรงสำหรับข้อมูลสมัครฝึกงาน นอกจากจะทำให้น่าเบื่อแล้วยังดูรกอีกต่างหาก อะไรไม่สำคัญ เวิ่นเว้อ ตัดทิ้งไปได้เลยเพราะไม่มีผลกับการฝึกงาน จริงๆ แล้วข้อมูลสำคัญของการสมัครฝึกงาน ควรใส่เฉพาะกิจกรรมหรือประสบการณ์ที่ช่วยเพิ่มทักษะความสามารถในการทำงานจะดูเก๋กู้ดกว่า  

 5. ไม่ระบุตำแหน่งที่อยากฝึกงาน 

     อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ปัญหานี้มักเจอบ่อยกับคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองว่าอยากจะสมัครฝึกงานด้านไหนหรือตำแหน่งอะไร การค้นหาตัวตนสำหรับใครบางคนอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ต้องไม่ลืมเคลียร์กับตัวเองให้ชัดก่อนว่ามีเป้าหมายยังไงกับการฝึกงาน ฉะนั้นต้องเริ่มต้นจากการตอบคำถามตัวเองว่าชอบอะไรหรือถนัดอะไร ทีนี้ก็จงทำการบ้านหาตำแหน่งที่อยากสมัครฝึกงานให้ดี จะได้ประเมินสิ่งที่เรากำลังต้องรับผิดชอบในอนาคตเด้อ

 6. ไม่หาข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรมาเลย 

     ส่วนนี้สำคัญมากนะเออ การไม่หาข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรที่มาสมัครฝึกงานถือว่าพลาดมากๆ เพราะเราจำเป็นต้องรู้ว่าพื้นฐานบริษัทเป็นยังไง วัฒนธรรมองค์กรเป็นแบบไหน หรือมีเงื่อนไขยังไง เก็บรายละเอียดคร่าวๆ ให้ได้มากที่สุด เช็คด่วนๆ ก่อนตัดสินใจสมัครฝึกงาน แถมได้เตรียมตัวไว้ก่อนเผื่อเวลาถูกสัมภาษณ์ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของเราและพร้อมทำงานได้อย่างสนุก

 7. มาสัมภาษณ์งานแบบไร้ Common Sense 

     หากการสมัครฝึกงานเดินทางมาถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์ ความตรงต่อเวลา การพูดจาสุภาพ การแต่งกายที่เหมาะสม ถือว่าเป็นมารยาททางสังคมแบบหนึ่งในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การสัมภาษณ์สมัครฝึกงานจำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้ Common Sense หรือสามัญสำนึกบางอย่างที่เราควรจะรู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรในสถานการณ์นั้นๆ เพื่อให้พี่ๆ ประทับใจในความกระตือรือร้นและเลือกเราเข้ามาฝึกงานด้วย 

     ทั้งหมดที่ชี้ทางให้จริงๆ แล้วเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนมักมองข้ามในตอนสมัครฝึกงาน แต่บอกเลยว่ามีผลมากๆ กับการถูกเลือก โดยเฉพาะองค์กรหรือบริษัทใหญ่ๆ ที่มีคนอื่นๆ เป็นคู่แข่งมากมายที่อาจใส่ใจรายละเอียดยิบย่อยตรงนี้จนบดบังรัศมีออร่าของเราก็ได้ เห็นมั้ยล่ะว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็ไม่ยากไปเกินความสามารถของเรา ทีนี้ ก็อยู่ที่ว่าจะต้องเลือกปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เจอจริงๆ และทำมันให้น่าประทับใจ เพราะในโลกของการทำงานจริงๆ ยุ่งยากกว่าตอนสมัครฝึกงานเยอะเลยน้า 

 

เคล็ดลับ เขียนเรซูเม่ เรซูเม่ หางาน ฝึกงาน นักศึกษา การฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน เด็กฝึกงาน เทคนิค ตำแหน่งฝึกงาน หาเด็กฝึกงาน สมัครฝึกงาน หาที่ฝึกงาน หางานฝึกงาน